รีวิว Silent Night (2023) ยิงแมร่งให้เหี้ยน

รีวิว Silent Night (2023) ยิงแมร่งให้เหี้ยน

ชายที่สูญเสียภรรยาและลูกชายไปจากเหตุกราดยิงที่บาร์แห่งหนึ่งในวันคริสต์มาส ทำให้เขาจึงคิดวางแผนล้างแค้นด้วยการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้กว่าหลายปี

Silent Night ผลงานภาพยนตร์แอคชั่นล้างแค้นของผู้กำกับ จอห์น วู ที่ได้มาเล่าเรื่องราวของ ไบรอัน (แสดงโดย แมตต์ สมิธ) ชายธรรมดาคนหนึ่งที่สูญเสียภรรยาและลูกชายไปจากเหตุกราดยิงที่บาร์แห่งหนึ่งในวันคริสต์มาส ทำให้เขาจึงคิดวางแผนล้างแค้นกลุ่มคนร้าย โดยอาศัยการวางแผนและการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาเป็นเวลากว่าหลายปี

ภาพยนตร์เรื่อง Silent Night ได้เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์กราดยิงที่บาร์แห่งหนึ่งในลอนดอน ไบรอัน สามีและพ่อของลูกชายที่เสียชีวิตไปจึงตัดสินใจที่จะล้างแค้นกลุ่มคนร้ายด้วยตัวเอง โดยการวางแผนอย่างรอบคอบและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างหนักหน่วง จนกระทั่งถึงวันคริสต์มาสปีถัดมา ไบรอันได้ลงมือสังหารกลุ่มคนร้ายทีละคนอย่างโหดเหี้ยม เพื่อสะสางหนี้แค้นที่มีอยู่ให้หมดสิ้นไปให้ได้

ต้องบอกเลยว่าตลอดทั้งเรื่องนั้น ภาพยนตร์จะนำเสนอฉากแอคชั่นที่ดุเดือดจริงๆ ตามสไตล์ผู้กำกับอย่าง จอห์น วู ที่ถ่ายทอดความงามของศิลปะการต่อสู้ผ่านมุมกล้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการโมชั่นมุมกล้องแบบซูมเข้าออกอย่างรวดเร็ว การแพนกล้องแบบฉับพลัน และการเคลื่อนกล้องแบบต่อเนื่องหรือถ่ายแบบลองเท็ค ซึ่งมันทำให้เรียลและสมจริงมากๆ แถมบางมุมกล้องก็ทำออกมาได้น่าสนใจกว่าหนังแอ็คชั่นทั่วไปอีกด้วย เรียกได้ว่าการเล่นมุมกล้องแบบนี้หาชมได้จากผู้กำกับคนนี้เท่านั้น

นอกจากฉากแอคชั่นแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับความยุติธรรมและการแก้แค้นของ ไบรอัน ตัวละครเอกของเรื่อง ที่เชื่อว่าการฆ่าล้างแค้นเป็นหนทางเดียวที่จะยุติความทุกข์ทรมานของเขาเองได้ แต่อย่างไรก็ตามนั้นการแก้แค้นนี้ก็กลับนำไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียมากยิ่งกว่าเดิมไปอีก ทำให้สะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่าความยุติธรรมนั้นอาจจะไม่ได้อยู่บนเส้นทางแห่งการแก้แค้นอย่างที่เขาคิดเสมอไปนั่นเอง

โดยรวมแล้ว Silent Night น่าจะถูกใจคอหนังแอ็คชั่นที่ชื่นชอบพล็อตสไตล์ฆ่าล้างแค้นอย่างเรื่องจอห์นวิคแน่นอน แต่จะปรับเปลี่ยนในเรื่องของมุมกล้องและการเซ็ตฉากต่างๆ ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะของผู้กำกับ จอห์น วู คนนี้ แต่แม้จะไม่ใช่หนังเรื่องที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้เท่าไรนัก แต่ก็ยังได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์และแฟนภาพยนตร์ทั่วโลกอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าจะชื่นชอบหรือไม่นั้นต้องมาติดตามรับชมให้ได้