Elvis
ชื่อเสียงอันโด่งดังทีแรกมาพร้อมกับความไม่จริงใจจากเพื่อนและผลประโยชน์ที่พวกเขาสามารถกอบโกยจากคุณได้โดยไม่สนว่าคุณจะเป็นหรือจะตาย

ชื่อเสียงอันโด่งดังทีแรกมาพร้อมกับความไม่จริงใจจากเพื่อนและผลประโยชน์ที่พวกเขาสามารถกอบโกยจากคุณได้โดยไม่สนว่าคุณจะเป็นหรือจะตายหรือจะทุกข์ทรมานขนาดไหนพบกับตำนานสัญญาทาสราชาร็อกแอนด์โรลในตำนาน เพียงหนึ่งเดียวที่เพียงผู้เชื่อทุกคนก็จะนึกถึงทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์และกางเกงทรงขาม้ารวมถึงท่าเต้นที่มีการก๊อบปี้นำไปใช้ต่ออย่างมากมาย Elvis Presley ราชานักร้องที่ถึงแม้จะหมดลมหายใจไปนานแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งผลงานที่ตราตรึงหัวใจให้กับแฟนคลับและผู้ฟังไปอีกนาน

ครั้งนี้ Elvis Presley ของเราจะกลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มเพื่อบอกเล่าตำนานสัญญาทาสที่เขาได้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อชดใช้ให้กับมันไม่ต่างกับการขายวิญญาณให้กับซาตาน การประสบความสำเร็จที่แลกมาพร้อมกับความเจ็บปวดอีกมากมายการทรยศหักหลังและที่มาของเพลง Caught in a trap ที่แต่งโดยความรู้สึกของเจ้าตัวเอง

Elvis

บทบาทที่น่าประทับใจและที่มาของตำนานอันขมขื่น

ผลงานฟิล์มครั้งนี้กลับมาภายใต้การควบคุมและกำกับของบาซ เลอห์มานน์ผู้กำกับหนังฮอลลิวูดที่ต้องการเผยแพร่ความเจ็บปวดในชีวิตของราชาเพลงในสมัยนั้น โดยเขาได้คัดเลือกทอม แฮงค์ให้มารับบทนายพันปาร์คเกอร์ ผู้จัดการส่วนตัวของ Elvis ในช่วงเวลาที่เขายังไม่ประสบความสำเร็จเรียกได้ว่าอยู่กับ Elvis มาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตด้วยความรู้สึกที่หวานอมขมกลืนมาโดยตลอด

เริ่มต้นที่ไหนคนปาร์คเกอร์ที่รักษาตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลมองออกไปนอกหน้าต่างชื่นชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของเมืองลาสเวกัสแสงไฟของตัวตึกที่สว่างรวมถึงโรงแรมต่าง ๆ ที่เปิดให้บริการยามค่ำคืนในวินาทีนั้นเองที่ความทรงจำระหว่างเขากับราชาเพลง Elvis ได้หวนย้อนกลับคืนมา

โดยในหนังจะเล่าย้อนไปในจุดที่ Elvis ที่อยู่ในสภาพอิดโรยและไร้เรี่ยวแรงจนล้มฟุบลงไปกับพื้นแต่ สิ่งแรกที่นายพันปาร์คเกอร์ผู้จัดการส่วนตัวของเขาพูดขึ้นในขณะนั้นก็คือทำอย่างไรก็ได้ให้ Elvis สามารถขึ้นแสดงได้ตามปกติ จบลงที่การฉีดสารบางอย่างเข้าตัวเอวิสเพื่อให้นักร้องหนุ่มมีแรงและทำการแสดงต่อได้อย่างปกติเป็นวินาทีที่นายพันปาร์คเกอร์ได้สวมวิญญาณของนักธุรกิจมากกว่าความรู้สึกผูกพันกับตัวนักร้องที่ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมานาน

คำถามจากนายพันปาร์คเกอร์ ผมดูชั่วร้ายมากเลยใช่ไหม ?

หากย้อนกลับไปในวัยเด็กของ Elvis ชีวิตของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบครอบครัวของเขาในรัฐมิสซิสซิปปีอยู่ด้วยความยากจนขัดสนทางการเงินมาโดยตลอดและตัวเขาในวัยเด็กก็รับรู้สถานะทางครอบครัวมาโดยตลอด แต่ในขณะเดียวกันความชอบในการแสดงของเขาก็ได้ปรากฏขึ้นในช่วงนั้นเขาชอบเข้าไปดูครับเต้นรำของชาวผิวสี และเพลิดเพลินไปกับเครื่องดนตรีพื้นเมืองสไตล์การขยับเต้นรำไปตามจังหวะของคนผิวดำ และในตอนนั้นเองที่เขารู้สึกว่าเขาสามารถเป็นนักแสดงได้ โดยในตอนนั้นเขาได้ขึ้นโชว์ในงานคาร์นิวัลเพื่อรับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ มาจุนเจือครอบครัวด้วยความชอบเล็ก ๆ ที่นำเขาไปสู่จุดเปลี่ยนแปลงพาเด็กน้อยเข้าสู่เส้นทางที่รุ่งโรจน์อย่างที่เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อน

วินาทีนั้นเองที่นายพันปาร์คเกอร์ได้เห็นแหล่งขุมทรัพย์ของเขา ด้วยน้ำเสียงที่ติดหูและสไตล์การแต่งตัวที่น่าประทับใจรวมถึงใบหน้าอันหล่อเหลาผสมผสานเข้ากับทุกอย่างที่เป็นตัว Elvis ได้อย่างลงตัวด้วยคำหวานล้อมของนายพันปาร์คเกอร์เขาสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ Elvis ในตอนนี้ เซ็นสัญญาซาตานกับเขาด้วยความไร้เดียงสา Elvis จึงคิดเพียงแค่ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นจากฐานะยากจน

บทเพลง Caught in a trap ที่ไม่ใช่บทเพลงรัก

หลังจากที่ได้เซ็นสัญญาซาตานกับนายพันปาร์คเกอร์แล้วโดยเส้นสายทางการทำงานของเขาก็สามารถแจ้งเกิด Elvis ได้ไม่ยากรวมถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเขาเองที่ทำให้ตัวเขาเป็นที่ยอมรับได้ในเวลาเพียงไม่นาน จนความนิยมของเขากลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนเข้ามาแทงเขาเอง เงินมากมายที่ลอยละล่องอยู่รอบตัวของเขาบทบัง จริยธรรมและสามัญสำนึกของนักธุรกิจอย่างนายพันปาร์คเกอร์ไปจนหมด ถึงแม้เอวิตจะเคยไล่เขาออกไปจากการเป็นผู้จัดการส่วนตัวแล้วครั้งหนึ่งก็ตามสุดท้ายสัญญาซาตานก็ตามกลับมาหลอกหลอนเขา สุดท้ายก็จบลงที่เขาต้องเป็นหนี้นายพันปาร์คเกอร์หลายสิบล้านหากไม่รับเข้าเป็นผู้จัดการต่อ

ตำนานราชาเพลงที่ไม่มีวันตายและความเจ็บปวดบนหนทางแห่งความรุ่งโรจน์แลกมาด้วยชีวิตในกรงขังที่หนีอย่างไรก็ไม่มีทางหนีพ้นพบกับภาพยนตร์ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ในโรงภาพยนตร์